เครื่องดูดควัน รุ่นยอดฮิต
-20%
Original price was: ฿7,500.00.฿5,990.00Current price is: ฿5,990.00.
-20%
Original price was: ฿17,300.00.฿13,900.00Current price is: ฿13,900.00.
-19%
Original price was: ฿15,900.00.฿12,900.00Current price is: ฿12,900.00.
-17%
Original price was: ฿7,190.00.฿5,990.00Current price is: ฿5,990.00.
-20%
Original price was: ฿22,300.00.฿17,900.00Current price is: ฿17,900.00.
-22%
Original price was: ฿16,500.00.฿12,900.00Current price is: ฿12,900.00.
-23%
Original price was: ฿12,900.00.฿9,900.00Current price is: ฿9,900.00.
-38%
Original price was: ฿8,500.00.฿5,290.00Current price is: ฿5,290.00.
เครื่องดูดควันมีกี่ประเภท? เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับครัวของคุณ
ห้องครัวเป็นหัวใจสำคัญของบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่ทำอาหารไทยที่มีกลิ่นและควันแรง เครื่องดูดควันจึงกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้ แล้วเครื่องดูดควันมีกี่ประเภท? และครัวแบบไหนควรเลือกใช้แบบใด? บทความนี้มีคำตอบเพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องดูดควันได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งแนะนำข้อดี-ข้อเสียแต่ละประเภท
เครื่องดูดควันมีกี่ประเภท
โดยทั่วไปเครื่องดูดควันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่:
เครื่องดูดควันแบบระบายอากาศออกภายนอก (Ducted Hood)
ดูดอากาศ กลิ่น และควันจากการทำอาหารออกไปนอกบ้านผ่านท่อระบายอากาศ
ข้อดี:
- กำจัดกลิ่น ควัน และความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เหมาะกับการทำอาหารหนัก เช่น ผัด ทอด ต้มยำ หรืออาหารไทยรสจัด
ข้อเสีย:
- ต้องวางแผนการเดินท่อ อาจต้องเจาะผนังหรือฝ้า
- ติดตั้งยากกว่าแบบอื่น
เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนภายใน (Recirculating Hood หรือ Charcoal Filter Hood)
ดูดอากาศผ่านแผ่นกรองไขมันและแผ่นกรองกลิ่น (Activated Charcoal Filter) ก่อนปล่อยอากาศกลับคืนสู่ห้อง
ข้อดี:
- ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินท่อ
- เหมาะกับครัวในคอนโดหรือพื้นที่ที่ไม่สามารถเจาะผนังได้
ข้อเสีย:
- ไม่สามารถกำจัดควันได้หมด 100%
- ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองบ่อย ๆ เพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ครัวแบบไหนเหมาะกับเครื่องดูดควันแบบใด
การเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะกับลักษณะของครัวมีผลต่อประสิทธิภาพในการใช้งาน มาดูกันว่าครัวแต่ละแบบควรเลือกใช้เครื่องดูดควันประเภทใด
ครัวเปิด/ครัวไทยในบ้าน
หากคุณมีห้องครัวที่ทำอาหารหนัก ใช้กระทะทอดหรือผัดแรง ๆ แนะนำให้ใช้:
-
เครื่องดูดควันแบบระบายอากาศออกภายนอก
-
เลือกแบบ กระโจม (Chimney Hood) หรือ แบบติดผนัง (Wall-Mounted Hood) ที่มีแรงดูดสูง 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ครัวคอนโด / ครัวเปิดโล่ง (Open Kitchen)
หากเป็นพื้นที่จำกัด หรือติดตั้งท่อระบายอากาศไม่ได้:
-
ใช้เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนภายใน
-
เลือกแบบ ติดใต้ตู้ (Under Cabinet) หรือ แบบ Slim Line ขนาดกะทัดรัด
ครัวฝรั่ง / ครัวเบา
สำหรับบ้านที่ทำอาหารเบา ๆ เช่น อุ่น ต้ม หรืออบ
-
ใช้เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนภายในก็เพียงพอ
-
หรือเลือกแบบฝังในตู้ (Built-in Hood) เพื่อความสวยงาม ประหยัดพื้นที่
วิธีเลือกเครื่องดูดควันให้คุ้มค่า
เพื่อให้การเลือกเครื่องดูดควันเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด ควรพิจารณา:
-
แรงดูด (Airflow): วัดเป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ยิ่งสูง ยิ่งดูดควันได้ดี
-
ขนาด: ควรมีขนาดพอดีกับเตา เช่น เตากว้าง 90 ซม. ควรใช้เครื่องดูดควันกว้างเท่ากัน
-
เสียงขณะทำงาน: เลือกเครื่องที่เสียงเงียบระดับไม่เกิน 60 เดซิเบล
-
ระบบกรอง: ควรมีทั้งแผ่นกรองไขมัน (Aluminum Filter) และแผ่นกรองกลิ่น (Charcoal Filter)
-
ดีไซน์: เลือกให้เหมาะกับสไตล์ห้องครัว เช่น สแตนเลส หรูหรา หรือแบบโมเดิร์นเรียบง่าย
แล้วเครื่องดูดควันแบบไหน เหมาะกับคุณ
ประเภท | เหมาะสำหรับ | จุดเด่น | จุดควรพิจารณา |
---|---|---|---|
แบบมีท่อ (Ducted) | ครัวหนัก ครัวไทย | กำจัดกลิ่นควันได้ดีที่สุด | ต้องมีพื้นที่เดินท่อ |
แบบไร้ท่อ (Recirculating) | ครัวคอนโด ครัวเบา | ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเจาะผนัง | ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์บ่อย |